มาเอาชนะหนี้กันเถอะ

admindebt

บริหารหนี้เป็นเงินออม ? วิธีเอาชนะภาระหนี้ใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ?

“ถ้าเราตักน้ำใส่โอ่งที่มันมีรูรั่ว
แม้ว่าเราขยันตักน้ำใส่โอ่งมากเท่าไหร่
น้ำก็ไม่เต็มโอ่งแน่นอน”

วิธีการจัดการเงินก็เช่นกัน เงินออมเปรียบเหมือนน้ำที่ไหลเข้ามาในกระเป๋าเรา ในขณะที่หนี้สินที่บริหารจัดการไม่ดีนั้นจะทำลายกระเป๋าของเราให้ฉีกขาด ทำให้เงินออมรั่วไหลออกจากกระเป๋าของเราไปจนหมด

ดังนั้น ถ้าเราอุดรอยรั่วต่าง ๆได้ทั้งหมด เงินออมของเราก็จะปลอดภัย ซึ่งวิธีการจัดการหนี้นั้นไม่ได้อาศัยเงินเพียงอย่างเดียว มันจะต้องใช้ความรู้ประกอบด้วยจึงจะทำให้เราหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ได้

3 ขั้นตอนล็อคคอหนี้ให้อยู่หมัด

ขั้นตอนที่ 1 ทำใจยอมรับความจริง ?

ถ้าวิกฤตหนี้เกิดขึ้นแล้วอย่าเสียเวลามานั่งโศกเศร้าเสียใจ เพราะมันไม่ได้ทำให้ยอดหนี้ลดลง สิ่งสำคัญที่ควรทำ คือ ยอมรับแล้วบอกความจริงกับคนในครอบครัว เพื่อขอกำลังใจต่อสู้กับหนี้สิน แม้ว่าช่วงแรกอาจจะรู้สึกเจ็บปวดใจ กลัวความผิด แต่ถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้แสดงว่าเราแก้ปัญหาหนี้ไปแล้ว 50% เพราะเมื่อความตั้งใจพร้อม ปัญหายากแค่ไหนก็มาหยุดยั้งเราไม่ได้

ขั้นตอนที่ 2 รู้จักหนี้ของตัวเอง ?

เมื่อรู้จักหนี้ของตัวเองแล้วจะทำให้เราจัดการหนี้ง่ายขึ้น เริ่มจากเขียนสรุปยอดหนี้จากสารพัดใบแจ้งหนี้ที่กองรวมกันบนโต๊ะให้ออกมาเป็น “ตารางสรุปยอดหนี้” เพราะจะทำให้เราเห็นภาพรวมของหนี้ได้อย่างชัดเจนและจะทำให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ดังนี้

● สรุปรายละเอียดหนี้ เช่น กู้ยืมเงินไปใช้ทำอะไรบ้าง เจ้าหนี้เป็นใคร เบอร์โทรเจ้าหนี้ จำนวนหนี้ อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ วันครบกำหนดชำระหนี้ จำนวนงวดที่เหลือ จะทำให้เรารู้ว่าหนี้สินที่ต้องผ่อนรายเดือนเป็นกี่ % ของรายได้

● ตรวจสอบความถูกต้องของใบแจ้งหนี้โดยเปรียบเทียบกับบิลที่เราได้รับตอนรูดบัตรว่าตรงกันหรือไม่ ถ้ามีอะไรผิดปกติจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่อายัดรายการนั้นทันที

● จัดประเภทหนี้ คือ หนี้ดี (เป็นหนี้ที่สร้างรายได้กลับมาให้เรา) กับหนี้ไม่ดี (เป็นหนี้ที่ไม่สร้างรายได้กลับมาให้เรา) โดยควบคุมการสร้างหนี้ไม่ดีให้น้อยกว่าการสร้างหนี้ดี

ขั้นตอนที่ 3 เขียนทางเลือกและลงมือทำ ?

หนี้แต่ละรูปแบบก็จะมีวิธีการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน เพื่อให้เข้าใจวิธีการแก้ไขมากขึ้นบทความนี้จะยกตัวอย่างหนี้สินของคนส่วนใหญ่ คือ การมีหลายเจ้าหนี้ พร้อมแนวทางแก้ปัญหามาฝากกันนะจ๊ะ

ตัวอย่าง : เรามีรายได้ 30,000 บาท หลังจากเขียนตารางสรุปยอดหนี้จะทำให้เราเห็นว่าตนเองมีภาระต้องผ่อนรายเดือน 60%ของรายได้ แบ่งเป็นหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบ

เราจะเห็นในตัวอย่างว่ามีเจ้าหนี้หลายราย ทั้งการผ่อนรถยนต์ บัตรเครดิตและหนี้นอกระบบ ซึ่งแต่ละรายก็จะมีอัตราดอกเบี้ยและวันครบกำหนดจ่ายที่แตกต่างกัน ทำให้จัดการเงินค่อนข้างลำบาก

เราควรกำหนดสิ่งที่ควรทำ และทำอย่างเคร่งครัด เช่น เจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ที่พอคุยได้ เลือกใช้หนี้ในระบบที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน โดยไม่ชำระแต่ดอก แต่ต้องให้ลดเงินต้นด้วย

สิ่งสำคัญ คือ หากลืมจ่ายไปสักงวดก็จะทำให้เสียประวัติการชำระหนี้ที่อาจจะทำให้การขอสินเชื่อครั้งต่อไปยากขึ้น