วิธีวางแผนการเงินแบบคูล ๆ สำหรับคู่รัก

adminfinbook

6 วิธีวางแผนการเงินสำหรับคู่รัก ?❤

ไม่ว่าคุณจะเป็นคู่รักแบบไหน กุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายในการใช้ชีวิตคู่ก็คือ การวางแผนการเงิน

การวางแผนการเงินโดยทั่วไปก็มีอยู่หลายวิธี เช่น จดบันทึกรายรับ-รายจ่าย ประหยัด ออมเงินให้มากขึ้น เป็นต้น แต่วิธีเหล่านี้ถ้าลองทำแล้วไม่ได้ผล ลองหยุดแพลนเดิม ๆ แล้วลองหาภารกิจใหม่ ๆ แบบอินเทรนด์ที่จะทำให้แผนการเงินของคุณสนุก ท้าทาย และมีสีสันมากขึ้นกันดีกว่า กับภารกิจง่าย ๆ เพียงแค่ชวนท้า “เลิก” และ “หาใหม่”

1.ภารกิจท้าเลิก ?

เลิก! ในที่นี้คือ เลิกค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยที่คุณทั้งคู่มีส่วนร่วม เช่น กินข้าวนอกบ้านแทบทุกวัน ดูหนังในโรงภาพยนตร์เกือบทุกเรื่อง ช็อปปิ้งของที่ไม่จำเป็นจริง ๆ เช่น รองเท้าผ้าใบมีอยู่แล้ว แต่จะซื้ออีก 5-6 คู่เพื่อให้ครบทุกสี ท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศทุกวันหยุด เป็นต้น เพียงคุณลองตั้งกฎสำหรับคู่ของคุณขึ้นมา หากใครทำผิดกฎต้องจ่ายเงินเข้าบัญชีกองกลางเป็นการลงโทษ

เราแนะนำว่า ถ้าอยากให้ตัวเลขดีดสูงเร็วเท่าไร ลองเพิ่มความสนุกท้าทายผ่านการเล่นเกมส์ “ความซื่อสัตย์” เช่น ถ้าคู่คุณบ้าช็อปปิ้ง ลองตั้งกฎให้ซื้อของฟุ่มเฟือยได้เดือนละไม่เกิน 5,000 บาท หากทำผิดกฎ ต้องนำเงินไปลงกองกลางเท่ากับจำนวนเงินที่ใช้เกินที่กำหนดไว้ หรือตั้งกฎว่าเราจะกินข้าวนอกบ้านกันเดือนละครั้งในงบ 4,000 บาท แต่ถ้าเกินจำนวนที่กำหนด คุณสองคนก็ต้องจ่ายเงินส่วนที่เกินเข้ากองกลาง ถ้าไม่ถึงก็เอาเงินส่วนที่เหลือเก็บเข้าบัญชีส่วนกลาง ลองคิดดูว่าจะลุ้นแค่ไหน

2.ภารกิจท้า หาใหม่ ?

ลองหาอะไรใหม่ ๆ เป็นไอเดียทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วตั้งเป้าว่าเราต้องทำมันให้ได้ เช่น ตั้งเป้าว่าจะไปวิ่งสัปดาห์ละ 2 วัน ถ้าทำไม่ได้ จะถูกปรับ 500 บาท หรือชวนกันลดน้ำหนักให้ได้ 2 กก.ภายใน 2 เดือน ถ้าทำไม่ได้จะถูกปรับ 1,000 บาท และถ้าน้ำหนักขึ้น ปรับเงินตามจำนวนขีดของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น คูณด้วย 1,000 บาท เช่น น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 2 ขีด ก็คูณ 1,000 บาท เท่ากับว่าคุณจะถูกปรับ 2,000 บาทเลยทีเดียว

ทริคนี้ก็ช่วยทำให้ภารกิจนี้เพิ่มเงินได้ดีทีเดียว หรือตั้งเป้าหมายว่าเราจะต้องทำมันให้ได้ในเดือน ม.ค.ปีหน้า เช่น แฟนเรามีฝีมือทำอาหารขั้นเทพ ลองตั้งเป้าว่า ช่วงต้นปีหน้า เราจะมีธุรกิจเปิดร้านอาหารร่วมกัน นอกจาก นี้อาจวางแผนจัดทริปสุดโรแมนติกที่ใคร ๆ ก็อยากไปสักครั้ง เช่น ไปสวีทนอนจิบไวน์ดูแสงจันทร์รับลมหนาวที่หมู่บ้านริมทะเลสาบกลางหุบเขาเมืองฮอลล์สแตท ที่ออสเตรีย เมื่อตั้งเป้าหมายร่วมกันได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนวางแผนทางการเงิน และหาเครื่องมือที่มาช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น

3.เปิดอกคุยเรื่องเงิน ?

ขั้นตอนแรกอาจจะน่าเบื่อหน่อย แต่ก็เป็นขั้นตอนสำคัญที่ข้ามไม่ได้ เพราะถ้าคุณทั้งคู่ไม่เปิดอกคุยเรื่องเงินแบบจริงจัง เป้าหมายที่จะเป็นคู่รักกระเป๋าหนักคงไม่มีวันเป็นไปได้ ถ้าอยากให้การเงินของคุณทั้งคู่บรรลุเป้าหมายก็จง “เปิดอกคุยเรื่องเงิน” รายได้เท่าไร รายจ่ายเท่าไร มีหนี้สินอะไรบ้าง ปัญหาการเงินในตอนนี้ นิสัยการใช้เงิน แผนการใช้เงินในอนาคต พูดง่าย ๆ ว่าแบไต๋ทุกเรื่องการเงินให้หมดเปลือก ถ้าคิดที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้ว

อย่าคิดว่ากระเป๋าใครกระเป๋ามัน ต่างคนต่างจัดการกันเอง เพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ กับการใช้ชีวิตร่วมกันอาจสร้างปัญหาเล็ก ๆ ที่สะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ในอนาคต คุณจำเป็นต้องรู้ว่าคู่ของคุณมีนิสัยการใช้เงินอย่างไร เพื่อช่วยกันวิเคราะห์ หาแนวทางป้องกันปัญหาทางการเงิน และวางแผนการออมให้เหมาะกับรายรับและรายจ่ายของทั้งคู่

4.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ?

ขั้นตอนนี้เบสิก แต่เป็นประโยชน์อย่างมาก แน่นอนว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนไป การจดบันทึกอาจเป็นเรื่องน่าเบื่อ ลองหาแอพพลิเคชั่นเจ๋ง ๆ ที่ช่วยทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้จัดการด้านการเงิน ติดตามการใช้จ่ายของคุณ และมีระบบแจ้งเตือนค่าใช้จ่ายประจำเมื่อถึงกำหนดที่ต้องชำระ และสามารถดูภาพรวมรายรับ-รายจ่ายตั้งแต่รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนได้ เช่น Mobills : Budget Planner ซึ่งเป็นแอพฯ ที่ใช้งานง่ายมาลองใช้ดู แล้วคุณทั้งคู่จะรู้ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไร เงินหมดไปกับค่าใช้จ่ายเรื่องไหน ก็จะทำให้ง่ายต่อการวางแผนการเงินในขั้นตอนต่อไป

5.เปิดบัญชีกลาง ?

ตามหลักทั่วไปของการใช้ชีวิตคู่คือ คุณจะต้องมีบัญชีกองกลางสำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน นำค่าใช้จ่ายที่ควรอยู่ในบัญชีกองกลางเช่น ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง รวมถึงค่าท่องเที่ยวที่คุณวางแผนจะไปด้วยกัน ฯลฯ คำนวณรายจ่ายในแต่ละเดือน แล้วบวกเพิ่มเข้าไปอีก 10% ของรายจ่าย เนื่องจากรายจ่ายบางอย่างไม่คงที่ทุกเดือน จากนั้นนำเงินจำนวนนั้นมาหารครึ่งเพื่อลงเงินกองกลางทุกเดือน คราวนี้คุณทั้งคู่ก็จะรู้แล้วว่าต้องลงเงินคนละเท่าไร และเหลือเงินสำหรับใช้ และเก็บเท่าไร

6.ใช้เงินทำงานให้งอกเงย ?

ถ้าคุณสามารถผ่านขั้นตอนวางแผนการเงินร่วมกันมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายได้แล้ว แสดงว่าคุณพร้อมสำหรับการสร้างอนาคตร่วมกันแล้วละ เพราะการออมเงินในขั้นตอนนี้คือบันไดก้าวสำคัญของการทำให้เงินเก็บของคุณงอกเงย เพียงคุณกำหนดสัดส่วนของเงินเก็บ บางคู่อาจเก็บ 10% ของรายได้ทั้งคู่ หรืออาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้เงินและรายรับรายจ่ายของคุณทั้งคู่ ส่วนรูปแบบการลงทุนก็มีให้เลือกมากมาย หากคู่ไหนพร้อมที่จะเสี่ยง ก็มีการลงทุนหลายอย่างที่มีความเสี่ยงน้อย ไปถึงความเสี่ยงสูง เช่น กองทุนที่เน้นการลงทุนหุ้นขนาดเล็ก-กลาง เลือกที่มีมีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคต กองทุนปันผล ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ก็น่าสนใจ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาในการลงทุนที่เหมาะสมด้วย