คนรวยกับคนจนต่างกันตรงไหนบ้างนะ

adminpersonalfin

5 ข้อ แตกต่าง ระหว่างคนรวย กับ คนจน
..?vs?..

บางครั้ง คนรวยกับคนจน นั้น มักมีเส้นบางๆกั้นอยู่เพียงแต่ตัวเรานั้นจะสังเกตหรือรับรู้ได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง คนจำนวนไม่น้อยที่รับรู้ถึงข้อแตกต่างระหว่าง คนรวยกับคนจน แต่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่เปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ แต่อย่างไรก็ตามการที่เรานั้นได้รู้ข้อแตกต่างระหว่างคนสองประเภทนี้ย่อมเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราสามารถเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อที่จะเริ่มพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ง่ายขึ้น ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

ข้อแตกต่างระหว่างคนสองประเภทนี้ที่เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจนมีดังนี้

แตกต่างอย่างที่หนึ่ง วิสัยทัศน์คนละขั้ว มองโลกคนละด้าน

แตกต่างอย่างที่หนึ่ง วิสัยทัศน์นั้นสำคัญมากมายที่แยกแยะระหว่างคนรวยกับคนจน เราจะเห็นความแตกต่างของวิสัยทัศน์จากคนสองประเภทนี้ได้อย่างชัดเจน มีคนจำนวนไม่น้อยนั้นที่พยายามที่จะคิดเข้าข้างตัวเองหรือคิดมองโลกในแง่ดีว่าวิสัยทัศน์ของเรานี่แหละดีที่สุดแล้ว ในเมื่อเราคิดแบบนี้แล้วนั้นเราจะไม่เปลี่ยนวิสัยทัศน์ของตัวเองที่มีอยู่อย่างแน่นอน เมื่อเราไม่เปลี่ยนวิสัยทัศน์ของเราแล้วนั้นเราก็จะใช้ชีวิตเดิมๆอยู่อย่างนั้น เราจะทำอะไรเดิมที่ไม่มีความแปลกใหม่ มีคนจำนวนไม่น้อยที่กว่าจะเปลี่ยนวิสัยทัศน์อะไรบางอย่างได้ต้องเจอเรื่องบางเรื่อง เจอสิ่งบางสิ่งที่สะเทือนใจมากมายจนเปลี่ยนวิสัยทัศน์เปลี่ยนความคิดเป็นคนละคน วิสัยทัศน์ของคนรวยนั้นมักเป็นวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกล มองเห็นความสุขส่วนรวมและสิ่งต่างๆ เป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างขวางมากกว่าคนอื่นๆ

แตกต่างอย่างที่สอง การใช้เงินบริหารอนาคต

ถ้าเรามีเงินจำนวนหนึ่งนั้น อาจจะเป็นเงินที่มีจำนวนเยอะ เป็นเงินก้อน เป็นเงินที่ได้ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม คนที่ได้เงินเหล่านั้นหรือมีเงินเหล่านั้น ล้วนที่จะมีวิธีใช้เงินนั้นที่แตกต่างกันไป เรามั่นใจว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกที่จะนำเงินเหล่านั้นไปซื้อสิ่งของที่ตัวเองอยากได้ ซื้อสิ่งของที่ตัวเองนั้นใฝ่ฝันอยากได้มานาน อยากครอบครองอะไรสักอย่างที่จะต้องได้ หรือกินอาหารแพงๆ ทานอาหารหรูๆโดยที่ไม่รู้จักคำว่าเสียดายเงิน ซึ่งการใช้เงินแบบนี้นั้นย่อมไม่เกิดผลดีอย่างแน่นอนในไม่ช้าเงินนั้นจะหมดไป คนที่ประสบความสำเร็จหรือคนรวยจำนวนไม่น้อยนั้นที่เลือกที่จะนำเงินที่มีอยู่หรือนำเงินที่ได้มาเหล่านั้นไปลงทุนกับสิ่งต่างๆ ใช้เงินสร้างเงินขึ้นมา เพื่อที่จะให้เงินที่มีอยู่นั้นงอกเงยเพิ่มขึ้นมากกว่าการนำเงินเหล่านั้นไปใช้จนหมด

แตกต่างอย่างที่สาม การเรียนรู้เสริมความคิด

มีคนจำนวนไม่น้อยที่เมื่อได้งานอะไรสักอย่างแล้วนั้น ก็เลือกที่จะหยุดการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ความรู้ใหม่ๆแล้วหันไปให้ความสนใจกับงานของตัวเองเต็มที่แทน และผู้คนเหล่านั้นจำนวนไม่น้อยที่เราสามารถสังเกตเห็นได้นั้น ก็แทบจะไม่มีวันเติบโตในหน้าที่การงานได้เลย คนที่ประสบความสำเร็จจำนวนไม่น้อยนั้นไม่เคยคิดที่จะหยุดการเรียนรู้ พวกเขาเหล่านั้นเลือกที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆตลอดเวลาเพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นไปอีก ในทางกลับกันคนจนจำนวนไม่น้อยนั้นพวกเขาเลือกที่จะไม่รับรู้สิ่งใหม่ๆเลือกที่จะไม่หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตัวเองให้อยู่ในจุดที่สูงกว่าเดิม ดังนั้นการเรียนรู้นั้นย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากมาย

แตกต่างอย่างที่สี่ เลือกที่จะเดินหน้าหรือเลือกที่จะอยู่กับที่

การเดินหน้าหรืออยู่กับที่ที่เราจะพูดถึงนี้ คงไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกายแน่นอน แต่เป็นการเคลื่อนไหวทางความคิด เป็นการเคลื่อนไหวของหน้าที่ของเราหรือการเคลื่อนไหวสิ่งต่างๆรวมไปถึงงานที่ทำ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกที่จะอยู่กับที่เกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ เลือกที่จะทำงานประจำไม่ออกไปหาอย่างอื่นหรือสร้างความสำเร็จที่มาจากโอกาสด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง อาจเป็นเพราะต้องการความมั่นคง สิ่งที่ทำอยู่นั้นเรามั่นคงเลยไม่อยากออกไปที่ไหน ไม่อยากออกไปทำอะไรอย่างอื่น แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนรวยจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จนั้น พวกเขาเลือกที่จะทิ้งสิ่งที่ทำอยู่หรือโดนบังคับให้ทิ้งสิ่งที่ทำอยู่หรืออาจจะล้มเหลวกับสิ่งที่ทำอยู่ เพื่อไปสร้างสิ่งใหม่ๆเพื่อที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆโดยอยู่บนพื้นฐานของคำว่าโอกาสและคำว่าความสำเร็จ

แตกต่างอย่างที่ห้า อดทนในสิ่งที่ควรอดทน

การอดทนในสิ่งที่ควรอดทนนี้ คือการอดทนสิ่งต่างๆที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จ ความอดทนเป็นสิ่งพื้นฐานของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ การอดทนในสิ่งที่ควรอดทนนั้น มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าควรอดทนกับอะไร การอดทนที่โดนเจ้านายของที่ทำงานบ่นทุกวันนี้ไม่ทำให้เรารวยขึ้นอย่างแน่นอน การอดทนทำงานทุกวันโดยที่ไม่ก้าวหน้าหรืออดทนทำงานเพื่อความอยู่รอดไปวันๆโดยที่ไม่เห็นโอกาสนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่นอน แต่การอดทนในที่นี้หมายถึงการอดทนรอโอกาสและในบางครั้งเราอาจต้องไปหาโอกาสด้วยตัวเอง มีสิ่งต่างๆจำนวนไม่น้อยที่ต้องใช้เวลาและความอดทน เราไม่อาจใจร้อนที่จะซื้อหุ้นตัวที่อยากได้ถ้าเราไม่อดทนรอจังหวะที่เหมาะสม ในบางครั้งถ้าเรามองเห็นโอกาสหน้าที่การงานที่ดีกว่านั้นแต่ติดในเรื่องของเงินเราอาจจะอดทนเพื่อเก็บเงินในการสร้างฐานะสร้างโอกาสต่างๆให้กับตัวเองได้