เจอปัญหากู้สินเชื่อไม่ผ่าน แก้ยังไงดี ? ?

สำหรับในปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของทุกคนมีมากขึ้น สินเชื่อ กลายมาเป็นปัจจัยหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนให้ความสนใจยื่นกู้ เพื่อนำเงินก้อนออกมาใช้ในการดำรงชีวิต หรือใช้เพื่อลงทุน หารายได้เสริม เพิ่มคุณภาพชีวิต ก็แล้วแต่ว่าจุดประสงค์ของแต่ละคนเป็นอย่างไร

แต่ปัญหาหนึ่ง ที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนผู้อยากมีเงินก้อนไว้ใช้อาจจะเจอมาโดยตลอดเมื่อไปยื่นขอกู้สินเชื่อ ก็คือ ยื่นขอกู้แล้วแต่กู้ไม่ผ่าน ธนาคารบางแห่งก็แจ้งเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่ธนาคารหลายแห่งก็เลือกที่จะไม่แจ้งผู้ยื่นกู้ ทิ้งให้คุณยืนอยู่อย่างเดียวดาย พร้อมกับคำถามว่าทำไมเรากู้ไม่ผ่าน เราทำอะไรผิดตรงไหน บางคนไม่ย่อท้อ หมั่นไปยื่นกู้หลาย ๆ ธนาคารเก็บไว้ แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดอาการท้อใจ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมีปัญหานี้อยู่ ขออย่าเพิ่งท้อใจไป ในวันนี้ เราจะพาคุณไปดูว่า เพราะอะไรเราถึงกู้สินเชื่อไม่ผ่านกันอยู่บ่อย ๆ แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไรดี

เริ่มจากเหตุผลแรก คือ คุณเคยมีประวัติหนี้เสียมาก่อน ? อาจจะเป็นหนี้กู้สินเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ก็มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะใช้หนี้จนหมดแล้ว หรือหนี้ยังคงค้างอยู่ ก็มีโอกาสที่ธนาคารจะปฏิเสธ ไม่ให้คุณยื่นกู้ได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าหากว่าคุณเคยมีประวัติเสียเกี่ยวกับหนี้มาก่อน จ่ายหนี้ไม่ตรงเวลา ผัดผ่อนอยู่บ่อยครั้ง หรือหนีหนี้มาเลย ยิ่งเป็นช่องให้ธนาคารปฏิเสธการให้กู้ได้ ถ้าคุณมีปัญหากู้ไม่ผ่านเพราะสาเหตุนี้ ให้คุณลองกลับไปทบทวนใหม่ดู ว่าสภาพหนี้ในขณะนี้เป็นอย่างไรแล้ว หากยังใช้ไม่หมด มีหนี้ติดค้าง ให้คุณรีบจัดการใช้หนี้โดยเร็ว อย่าปล่อยให้ค้างไว้ ถึงแม้จะดึงเครดิตที่เสียไปแล้วของคุณให้กลับมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีคดีติดตัวไป ทำให้กู้เงินได้ลำบากยิ่งขึ้นในอนาคต จากนั้นอย่าท้อใจ ลองขอกู้จากหลาย ๆ ธนาคารดู ยังมีสินเชื่อจากอีกหลายธนาคารที่เอื้อให้ผู้มีประวัติเสีย อย่างเช่นสินเชื่อซิตี้ให้คุณได้ลองกู้อยู่

เหตุผลข้อต่อมาที่ทำให้คุณติดปัญหากู้ไม่ผ่าน คือ คุณไม่มีเงินเก็บเป็นก้อนเลยแม้แต่ก้อนเดียว ? หลาย ๆ ธนาคาร ไม่ได้ดูหลักฐานในการขอกู้แค่เงินเดือนที่ถึงอย่างเดียว แต่จะดูไปถึงการเก็บเงินของคุณด้วยว่าเป็นอย่างไร เช่น บางคนมีเงินเดือนตกเดือนละ 30,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงมากพอที่จะกู้ได้ แต่เมื่อไปตรวจสอบประวัติการออมเงินแล้ว ปรากฏว่าไม่มีเงินออมอยู่เลยแม้แต่ก้อนเดียว ธนาคารก็จะเกิดการตั้งข้อสงสัยขึ้นว่า เพราะเหตุใดจึงไม่มีเงินก้อนเลย ทั้ง ๆ ที่มีเงินเดือนมาก และอาจสันนิษฐานไปได้ว่าคุณคงมีหนี้สิน หรือมีประวัติเสียเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคารไม่รู้ จึงไม่มีเงินเก็บเหลือ สุดท้ายธนาคารก็จะสรุปเอาว่าคุณมีประวัติที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ควรให้กู้ วิธีแก้สำหรับปัญหานี้ก็คือ คุณควรเก็บเงินก้อนไว้เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ถึงจะไม่ได้เป็นก้อนใหญ่อะไร แต่ก็ช่วยให้ธนาคารเกิดความเชื่อถือ และตัดสินใจปล่อยกู้ให้คุณได้

เหตุผลอีกข้อหนึ่งที่ทำให้กู้สินเชื่อไม่ผ่าน ก็คือ คุณมีภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนมากเกินไป  ? ทั้งภาระหนี้สิน การดำรงชีวิต การซื้อสิ่งของเครื่องใช้ในบ้าน รวมไปถึงการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ ธนาคารจะเก็บนำมาคิดหมด หากคำนวณดูแล้ว พบว่าคุณมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกิน 40% ทุกเดือน รับรองได้เลยว่าธนาคารจะปฏิเสธ ไม่ยอมให้คุณกู้ผ่านแน่ ๆ แม้แต่สินเชื่อซิตี้ ที่ถึงแม้จะเป็นสินเชื่อที่กู้ง่าย แต่ถ้าธนาคารสืบดูแล้ว พบว่าคุณมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป ก็มีสิทธิ์ไม่ปล่อยกู้ได้เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจกู้เงิน ขอให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเสียใหม่ อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยเกินไป ลดภาระหนี้สินที่อยู่ในครัวเรือนออกไปเสียบ้าง เท่านี้ โอกาสจะขอกู้ก็มีมากขึ้นแล้ว

มาสู่เหตุผลข้อสุดท้ายกันบ้าง บางธนาคารจะไม่พิจารณาปล่อยกู้ให้กับคนที่ติดค้ำประกัน? อยู่ โดยเฉพาะถ้าคุณไปค้ำประกันให้ใคร แล้วตัวคนกู้จริงเกิดเบี้ยวหนี้ขึ้นมา ประวัติเครดิตของคุณจะเสียไปด้วย และมีโอกาสที่จะกู้ไม่ผ่านมากขึ้น แต่เหตุผลนี้ เป็นเหตุผลที่พบไม่มาก

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็คือ เหตุผล และวิธีแก้ไข สำหรับผู้ที่กู้เงินไม่ผ่าน ใครที่กำลังติดปัญหานี้อยู่ ขอให้ลองตรวจสอบตัวเองดูนิดหนึ่ง ว่าเพราะอะไรเราถึงกู้ไม่ผ่าน มีปัญหาใดติดอยู่หรือไม่ ถ้าเป็นปัญหาที่สามารถแก้ได้ ก็ให้แก้ให้สำเร็จ แต่ถ้าปัญหาใดที่ไม่สามารถแก้ได้ ก็ไม่ต้องไปวิตก ลองยื่นกู้กับหลาย ๆ ธนาคาร จนกว่าจะได้นะคะ ✌