6 เคล็ดลับกวาดลูกค้าใหม่เข้ามาหาแบรนด์ ?

สมัยนี้นะคะ มีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาในท้องตลาดมากมาย การรักษาลูกค้าเก่าไว้ว่ายากแล้ว แต่การหาลูกค้าใหม่ ๆ มาทดลองในแบรนด์ของคุณนั้นยากยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงมีกลเม็ดเคล็ดลับที่จะทำให้แบรนด์คุณมีลูกค้ารายใหม่ ๆ เข้ามาลองใช้บริการอยู่เรื่อย ๆ ค่ะ

1.สินค้าทดลองใช้ จำเป็นต้องมี ?

จากเรื่องจริงเลยคือ “well-wisher” ได้ซื้อนิตยสารเล่มหนึ่ง ปรากฎว่านิตยสารฉบับนั้นแถมแผ่นแปะสิวยี่ห้อนึง ซึ่งเราไม่เคยใช้และไม่คิดจะซื้อมาก่อน ก็โอเคของฟรีใช้ไป ปรากฎว่ามันดีมากอ่ะ ใช้สะดวกแต่งหน้าง่าย ไม่เปื้อนหัวสิว กลายเป็นต้องไปหาซื้อเจ้ายี่ห้อนี้มาใช้จนเป็นลูกค้าประจำไปซะงั้น นี่เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ของ “well-wisher” เองค่ะ หรือถ้าให้เห็นภาพชัดก็พวกทดลองชิมอาหารที่บูทเล็ก ๆ ตามห้างนั่นแหละ (เคยชิมกันใช่ไหมคะ) ให้ลูกค้าได้ลองว่ามันอร่อย มันเลอค่านะ ซื้อไปเหอะแล้วจะไม่ผิดหวัง เพราะงั้นไม่ว่าจะเป็นของกินหรือเครื่องสำอาง ลองใช้เทคนิคนี้ดูค่ะ รับรองว่าได้ลูกค้าใหม่แน่ ๆ

2. โปรโมชั่นต้องปัง!! ดึงดูดใจแบบต้องเหลียวหลัง ?

อันนี้ยกตัวอย่างชัด ๆ ก็อย่างเช่นพวกชาเขียวยี่ห้อใหญ่ในตลาดที่ออกกลยุทธ์โปรโมชั่นมาฟาดฟันกันแบบถึงอกถึงใจ จนบางครั้งคนที่ไม่ดื่มชาเขียวบางคน ต้องขอลองซักขวดเผื่อจะได้รางวัลที่ล่อใจเหล่านั้นบ้าง อย่างโปรเครื่องสำอางที่ “well-wisher” เคยเห็นเช่น ซื้อชิ้นแรกชิ้นต่อไปลด 50% หรือเอารองพื้นขวดเก่าที่มีอยู่ไม่จำกัดยี่ห้อมารับขวดใหม่ไปฟรี ๆ แบบนี้ก็เวิร์คนะ ลองนำไปปรับใช้กันดูค่ะ

3.รีวิวต้องมา คนทดลองใช้ต้องมีให้เห็น ?

กรณีอย่างเป็นเครื่องสำอางก็จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่า before – after ของการใช้เป็นอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ซึ่งบางครั้งตัวแบรนด์อาจจะใหม่มากจนคนไม่ไว้ใจ ก็ต้องอาศัยบรรดาคนที่เรียกว่าเน็ตไอดอลหรือบล็อกเกอร์ที่มีมาตรฐานรีวิวสินค้าให้ ตรงนี้ก็ต้องไปตกลงหลังไมค์กับเค้าเองว่าเรตอะไรเป็นเท่าไหร่ หรืออย่างรีวิวจากผู้บริโภค คนใกล้ตัวที่ใช้แล้วก็ว่าไป เอามาแชร์ให้โลกเห็นว่า มีคนใช้สินค้าชั้นจริง ๆ นะ แล้วมันโอจริง ๆ แต่ที่อยากให้ระวังไว้คือ อย่าหลอกลวงผู้บริโภคเด็ดขาด เพราะสมัยนี้โลกออนไลน์มันไปไวเว่อร์ ถ้าสินค้าไม่เป็นไปตามที่เคลมไว้ รับรองว่านอกจากลูกค้าใหม่จะไม่ได้แล้ว ชื่อเสียงของแบรนด์ยังจบตั้งแต่ยังไม่เริ่มอีกนะจะบอกให้

4.นำเสนอดี มีลูกเล่นให้ติดตาม ?

คือด้วยความที่ลูกค้าใหม่เค้ายังไม่เคยลองใช้สินค้าเรา เพราะงั้นสมมติเราเปิดเพจ เปิดเวปไซต์ก็ต้องมีกิจกรรมสนุก ๆ รูปสวยดึงดูดหรือการแชร์เรื่องน่าสนใจน่าติดตามอื่น ๆ บ้าง อาจจะให้ข้อมูลความรู้ สาระต่าง ๆ ไม่ใช่ขายของเพียงอย่างเดียว มันจะดูเป็นการยัดเยียดเกินไป พอคนเริ่มสนใจในเพจ เห็นสตอรี่เรื่องราวต่าง ๆ ของสินค้า ยอดขายจากลูกค้าใหม่ก็จะเข้ามาได้อย่างง่ายดายเลยล่ะค่ะ

5.กระจายสินค้าทุกช่องทาง ลูกค้าอยู่ที่ไหนก็เจอเรา ?

อย่างในโลก online เราไม่รู้หรอกค่ะว่าลูกค้า target เรานั้นอยู่ที่ช่องทางไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็น facebook IG youtube website และอื่น ๆ เพราะงั้นสิ่งที่ทำได้คือกระจายข้อมูลของแบรนด์ไปช่องทางต่าง ๆ ให้ทั่ว ๆ เว็บบงเว็บบอร์ดอะไรที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องกับสินค้าก็จัดให้หมด ถ้าใครมีงบ offline หน่อยก็ออกบูธ เปิดหน้าร้าน เปิดสาขา มีตัวแทนจำหน่าย ประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้ารู้ว่าเรามีตัวตน เมื่อเตรียมพร้อมทุกช่องทางขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาในมือ ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะค่ะ

6.สร้างคอนเน็คชั่นกับร้านค้า ?

อันนี้เป็นแนวทางเผื่อสำหรับบางคนที่ไปฝากขายสินค้าตามร้านต่าง ๆ เราอาจจะให้ส่วนลดหรือโปรโมชั่นดี ๆ กับร้านที่เราไปฝากขาย เพื่อให้ทางร้านเชียร์สินค้าของเราให้มากกว่าคู่แข่งเป็นพิเศษ เทคนิคนี้ก็จะทำให้ได้ลูกค้าใหม่มาได้แบบที่ไม่ต้องลงแรงมากนัก คือให้ร้านทำงานทำเงินให้เรานั่นเอง

“well-wisher” ว่าหลายท่านก็น่าจะใช้เทคนิคเหล่านี้อยู่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกด้าน ก็เผื่อไว้สำหรับท่านใดที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและนำไปปรับใช้กับการสร้างแบรนด์นะคะ