ความหมาย : 💰 “พักชำระหนี้” 💸 “พักหนี้” 💷 “พักชำระเงินต้น” 💹 “ลดดอกเบี้ย”
ในช่วงโควิดนี้รัฐบาลก็ได้ออกมาตรการมากมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน หนึ่งในนั้นก็คือมาตรการจัดการหนี้ ที่รัฐบาล ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ ให้ความร่วมมือออกมาตรการ คือ “ลดภาระหนี้” ให้กับประชาชนให้สามารถบริหารจัดการรายได้ให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ ที่ได้เห็นบ่อย ๆ คือการเปิดให้ “พักชำระหนี้” “พักชำระเงินต้น” “ลดดอกเบี้ย” ไปจนถึง “พักหนี้” ซึ่งแต่ละคำ มีความหมายที่แตกต่างและวิธีดำเนินการที่แตกต่างกันออกไป
ดังนั้น ก่อนที่เพื่อน ๆ จะเข้าร่วมโครงการเพื่อรับเงื่อนไขต่าง ๆ เหล่านี้ อยากให้ทำความเข้าใจกับคำต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อให้ไม่เกิดความสับสน และสามารถวางแผนการชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ต้องมาเข้าใจผิดทีหลังให้กระทบการใช้ชีวิตต่อจากนี้
ดร.พีรภัทร ฝอยทอง CFP ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย/นักวางแผนการเงินส่วนบุคคล อธิบายถึงความแตกต่างของแต่ละคำไว้ ดังนี้
พักชำระหนี้ 😒
“พักชำระหนี้” หมายความว่า ในงวดที่ได้รับการพักชำระนั้น ไม่ต้องจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ธนาคารจะยังคิดดอกเบี้ยต่อไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยมาเก็บดอกเบี้ยในภายหลัง
ตัวอย่าง นาย A เป็นลูกค้าของธนาคาร ที่ให้มาตรการพักชำระหนี้ 3 เดือน ระหว่างที่มีการพักชำระหนี้ นาย A ไม่ต้องชำระเงินให้กับธนาคารเลย ในงวดที่ 10 – 13 แต่ หลังจากพ้นระยะเวลาพักชำระหนี้ 3 เดือนนี้แล้ว นาย A จะต้องกลับมาผ่อนชำระค่างวดตามปกติในงวดที่ 14 และจะต้องจ่ายดอกเบี้ยของงวดที่ 10-13 ซึ่งยังค้างชำระเอาไว้ด้วย
ซึ่งการ “พักชำระหนี้” ณ ที่นี้ หลายคนอาจสับสน และคิดว่าเป็นลักษณะเดียวกับการ “พักหนี้” ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่เหมือนกัน!
พักหนี้ 😁
การ “พักหนี้” หมายความว่า ในงวดที่ได้รับการพักหนี้ให้ ไม่ต้องจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย และธนาคารจะหยุดคิดดอกเบี้ยในช่วงที่เราพักหนี้ด้วย
ตัวอย่างคือ นาย A เป็นลูกค้าของธนาคารที่มีมาตรการพักหนี้ 3 เดือน เขาไม่ต้องชำระเงินให้กับธนาคารเลย ในงวดที่ 10 – 13 เหมือนกับกรณีการพักชำระหนี้ แต่ในระหว่าง 3 เดือนที่ไม่ได้ชำระหนี้นั้น ธนาคารจะ “หยุดคิดดอกเบี้ย” ของนาย A
ซึ่งหมายความว่า เมื่อพ้นระยะเวลาพักหนี้ไปแล้ว นาย A จะต้องกลับมาผ่อนชำระค่างวดเดือนละ 10,000 บาทตามเดิม ในงวดที่ 10 เหมือนว่า 3 เดือนที่ผ่านมาธนาคารหยุดเวลาไว้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งการพักหนี้ลักษณะนี้จะทำให้ลูกหนี้ไม่มีดอกเบี้ยค้างจ่ายกับธนาคารเหมือนกรณีการพักชำระหนี้นั่นเอง
พักชำระเงินต้น 😅
ส่วนการ “พักชำระเงินต้น” ที่หมายความว่าในงวดที่พักชำระเงินต้นนั้น ไม่ต้องจ่ายเงินต้น แต่ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับธนาคารไปเรื่อย ๆ
เช่น นาย A เป็นลูกค้าของธนาคารแห่งหนึ่ง สมมติเขาจะต้องจ่ายค่าผ่อนหนี้บ้าน เป็นเงิน 10,000 บาททุกเดือน เป็นเงินต้น 3,800 บาท ดอกเบี้ย 6,200 บาท ให้กับธนาคาร
ในช่วงโควิด-19 นาย A ตกลงกับธนาคารเพื่อทำการพักชำระเงินต้น ในการผ่อนชำระ งวดที่ 10 – 13 โดยนาย A ยังต้องชำระดอกเบี้ยรวมเป็นเงินทั้งหมด 18,600 บาท (6,200 บาท x 3 งวด)
หลังจากที่พ้นระยะเวลาพักชำระเงินต้น 3 เดือน นาย A จะต้องกลับมาผ่อนชำระค่างวดเดือนละ 10,000 บาทตามเดิม ดังนั้นการที่ นาย A จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเดือนละ 6,200 บาท มา 3 เดือน ยอดเงินต้นจึงยังคงเหลืออยู่เท่าเดิม เมื่อกลับมาชำระหนี้ตามปกติ ก็เหมือนการเริ่มชำระหนี้งวดที่ 10 ใหม่ เพราะหลักของการผ่อนหนี้บ้านก็คือ ในแต่ละงวดที่ผ่อน เงินจะถูกนำไปจ่ายดอกเบี้ยก่อน จากนั้นส่วนที่เหลือจึงจะถูกนำไปจ่ายเงินต้น
นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่น ๆ อย่างเช่น “การลดดอกเบี้ย” 😫 ซึ่งหมายถึงการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ในช่วงระยะที่ธนาคารกำหนด หมายความว่า ยังต้องมีการชำระเงินต้น และดอกเบี้ยตามเดิม แต่จ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง
ดังนั้น เมื่อมีมาตรการต่าง ๆ ออกมา ต้องดูว่าเป็นมาตรการลักษณะใดโดยต้องมีการสอบถามถึงเงื่อนไขและรายละเอียดเพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เราต้องจ่าย และเตรียมไว้จ่ายในอนาคต
“ใครยังผ่อนไหว อยากแนะนำให้ผ่อนเท่าเดิม เพราะทำให้เงินต้นลด แต่ถ้าอยากลดภาระจริง ๆ ลองดูว่าหากสามารถรีไฟแนนซ์ได้ อาจใช้การรีไฟแนนซ์แทน เพราะจะช่วยลดดอกเบี้ยลงมา เนื่องจากปัจจุบันหลายธนาคารปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงมาแล้ว หากมีการเจรจาลดดอก ลดยอดการผ่อนให้ไปผ่อนต้นบ้างก็ยังดีกว่าพักชำระเฉย ๆ เพราะว่าหากมีแค่การชำระแบบพักชำระชั่วขณะอาจกลายเป็นดินพอกหางหมู และต้องกลับมาชำระเพิ่มภายหลังอยู่ดี” ดร.พีรภัทร กล่าว
อย่างไรก็ดี นอกจากมาตรการความช่วยเหลือของรัฐ และธนาคารแล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบเอง จะต้องพยายามจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างรัดกุม และปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย ควบคู่ไปเพื่อให้สามารถผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้
เครดิต : ดร.พีรภัทร ฝอยทอง CFP ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย/นักวางแผนการเงินส่วนบุคคล