9 เหตุผลที่บอกว่าคุณยังไม่พร้อมจะซื้อบ้าน 🏡
การซื้อบ้านเป็นของตัวเองสักหลังแบบที่ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เราควรต้องมีความพร้อมในการซื้อบ้านซะก่อน แต่หาก 9 ข้อต่อไปนี้เกิดตรงกับตัวคุณ แสดงว่าคุณยังไม่มีความพร้อมจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองนะคะ
คงไม่มีใครพอใจกับการเช่าที่อยู่อาศัยไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยในรูปแบบไหนก็ตาม เพราะค่าเช่าในทุกเดือน ๆ ที่เราเสียไปก็เหมือนเสียเปล่า ท้ายที่สุดเราก็ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านหรือห้องนั้นอยู่ดี ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราทุกคนอยากซื้อบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เพียงแต่ว่าหากเหตุผลที่รั้งให้คุณไม่มีบ้านของตัวเองสักทีเป็นเหมือน 9 ข้อต่อไปนี้ ก็อาจแปลได้ว่าคุณยังไม่พร้อมจะซื้อบ้านไว้เป็นภาระชิ้นใหญ่ของตัวเองนะคะ
1. ไม่มีเงินดาวน์ 💰
ในการซื้อบ้าน คอนโด หรือทาวน์เฮ้าส์ย่อมต้องวางเงินดาวน์ประมาณ 5 -10% จากราคาเต็มของบ้านเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการผ่อนค่างวดเป็นรายเดือนตามสัญญาซื้อขายที่ระบุไว้ นั่นก็หมายความว่าหากคุณยังไม่มีเงินก้อนมากพอสำหรับค่าดาวน์บ้าน ก็คงหมดสิทธิ์จะมีบ้านเป็นของตัวเอง ณ ตอนนี้ รอเก็บเงินให้พร้อมจริง ๆ ดีกว่าเนอะ
2. เครดิตทางการเงินไม่มั่นคงเท่าที่ควร 📑
แน่นอนว่าเรายังมีทางเลือกเป็นเหล่าโครงการเงินกู้ซื้อบ้านจากธนาคารทั้งหลาย ทว่าเงื่อนไขการขอกู้ตรงนี้ก็ต้องอาศัยเครดิตทางการเงินที่ดีของคุณช่วยหนุนให้ยื่นกู้ได้ง่าย อนุมัติเงินกู้เร็วและมากพอจะครอบคลุมราคาบ้านได้ทั้งหมดด้วย ดังนั้นหากเครดิตทางการเงินของคุณยังไม่มั่นคงมากพอ ทางธนาคารก็คงลำบากใจที่จะอนุมัติเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัยตัวนี้อยู่ดีนะคะ
3. ดอกเบี้ยสูงเกินกำลัง 💸
หากเงื่อนไขการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านที่คุณเล็งอยู่มีอัตราดอกเบี้ยโหดมาก สูงเกินอัตราเงินเดือนของคุณซะอีก แบบนี้ไม่ควรเสี่ยงซื้อบ้านเด็ดขาดเลย ไม่อย่างนั้นก็คงต้องเหนื่อยหาเงินมาโปะหนี้ ซึ่งก็ไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉิน หมุนเงินไม่ทันจนผ่อนบ้านไม่ไหว โดนธนาคารยึดบ้านไปขายทอดตลาดหรือเปล่าด้วย
4. การงานไม่มั่นคง 🙍
หากเป็นพนักงานราชการก็อาจมีเครดิตดีพอจะกู้เงินซื้อบ้านได้อย่างไม่ลำบากนัก ทว่าในกรณีที่คุณเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัวที่ไม่ใหญ่โตมาก หรือเป็นพนักงานเอกชนที่เพิ่งทำงานมาได้ไม่กี่ปี ลักษณะงานแบบนี้อาจไม่มั่นคงมากพอให้คุณตัดสินใจซื้อบ้านเท่าไรนะคะ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าบริษัทที่เราทำงานอยู่จะเติบโตหรือถดถอยลง หรือเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นและการันตีได้ว่ากิจการของเราจะไม่มีวันซบเซา ฉะนั้นการตัดสินใจมีหนี้ก้อนโตเป็นบ้านก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ควรค่าแก่การเสี่ยง
5. ค่าเช่าบ้านถูกกว่าค่าผ่อนบ้านเกินครึ่ง 📥
สำหรับคนที่เช่าบ้าน หอพัก หรือคอนโดอยู่ตอนนี้ หากคำนวณแล้วว่าการเช่าบ้านถูกกว่าค่าผ่อนบ้านกว่า 50% และคุณเองก็ยังไม่มีเงินเก็บมากพอสำหรับการซื้อบ้าน อย่างนี้แนะนำว่าอย่าเพิ่งเสี่ยงกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในตอนนี้เลยดีกว่า รอให้พร้อมกว่านี้อีกนิดค่อยว่ากันใหม่
6. มีโอกาสย้ายที่อยู่บ่อย ๆ 💼
หากหน้าที่การงานหรือวิถีชีวิตของคุณไม่ค่อยอยู่นิ่งเท่าไร การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องสำหรับคุณแล้วล่ะค่ะ เพราะถ้าซื้อบ้านก็ต้องผ่อนอย่างน้อยเป็นสิบปี แล้วหากต้องย้ายที่อยู่กะทันหันแล้วบ้านที่ซื้อไว้ล่ะ ?
7. จำเป็นต้องผ่อนบ้านร่วมกับใครอีกคน 👫
ในกรณีที่ซื้อบ้านร่วมกันสองคน และคนคนนั้นเป็นคู่ชีวิตของคุณ ซึ่งอาจจะจดทะเบียนหรือไม่ก็ตาม ควรต้องแน่ใจก่อนว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดปัญหา ไม่สามารถแชร์ค่าผ่อนบ้านกับคุณได้อีกต่อไป คุณเองจะรับภาระค่าผ่อนบ้านไหวไปได้ตลอด ทว่าหากยังไม่แน่ใจในประเด็นนี้นัก อาจต้องไตร่ตรองเรื่องซื้อบ้านให้ดีกว่านี้อีกหน่อย
8. เป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ติดบ้าน 🌐🛫
ถ้าคุณมีความฝันว่าอยากเที่ยวรอบโลก หรือเป็นนักเดินทางที่ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเลยในช่วงเวลาแต่ละปี แบบนี้จะมีบ้านเป็นหลักแหล่งให้เสียเงินก้อนไปทำไมกันจ๊ะ สู้เก็บเงินไว้ท่องเที่ยวต่อไปเรื่อย ๆ ดีกว่าเนอะ
9. ซื้อตามกระแส 🏘
อ๊ะ ๆ อย่าลืมนะว่าการซื้อบ้านสักหลังเป็นเรื่องใหญ่มากถึงมากที่สุด คุณต้องใช้เงินก้อนจำนวนไม่น้อย ทั้งยังต้องแบกภาระค่าผ่อนบ้านยาวนานไปอีกนับสิบปี ฉะนั้นหากอยากมีบ้านเป็นของตัวเองเพราะคนรอบตัวแห่ซื้อบ้านกันหมด แบบนี้เปลี่ยนความคิดด่วน ๆ เลย
ราคาบ้านและที่ดินตอนนี้ไม่ค่อยต่ำกว่าหลักล้านเลยนะคะ ดังนั้นการซื้อบ้านเป็นของตัวเองก็ควรต้องผ่านการพิจารณาให้รอบคอบที่สุด หากยังไม่มีความพร้อมจะแบกรับภาระหนี้จากการซื้อบ้านไหว ก็อย่าเพิ่งเสี่ยงเลยดีกว่า 💁 ด้วยความปรารถนาดีจาก “well-wisher” นะคะ