10 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย สบายเรื่องปลดหนี้

Tavatchai Engsavings

🤩10 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย สบายเรื่องปลดหนี้🤭

วิธีออมเงิน ประหยัดรายจ่าย หากเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่มีเคล็ดลับการออมเงินหรือยังไม่รู้วิธีปลดหนี้อย่างทันใจ บอกได้คำเดียวว่าต้องอ่าน ! 😁

1. เคลียร์หนี้บัตรเครดิตให้หมดก่อน🧾

          ถ้าคุณเผลอใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตจนมียอดค้างชำระจำนวนหนึ่ง ก่อนจะเริ่มเก็บเงินอย่างจริงจังก็ควรชำระหนี้บัตรเครดิตเป็นอันดับแรก เพราะเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่า ดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นสูงมากขนาดไหน ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ยอดหนี้เพิ่มพูนจนเกินกำลังจ่ายของตัวเองมากไปกว่านี้ ก็ควรเคลียร์หนี้บัตรเครดิตให้หมดซะ

2. ใช้รถสาธารณะบ้างก็ได้🚎

          สำหรับคนมีรถเป็นของตัวเอง เคยลองคำนวณกันบ้างไหมคะว่า ในแต่ละเดือนคุณหมดกับค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าจอดรถ ค่าทางด่วน และค่าซ่อมบำรุงไปเท่าไร ซึ่งถ้าคิดอย่างจริงจังก็จะรู้เลยว่าเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียวกับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ดังนั้นอาจจะดีกว่าก็ได้หากเราจะลองมาใช้บริการรถสาธารณะ หรือติดรถคนรู้จักไปบ้าง แค่นี้ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้เป็นหลักร้อยหลักพันเชียวล่ะ

3. จดรายจ่ายประจำวัน📝

          วิธีคลาสสิกอย่างการจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายในแต่ละวันไว้เป็นหลักฐานให้ดูยังคงใช้ได้มาจนถึงทุกวันนี้ แถมยังได้ผลดีด้วยล่ะค่ะ เพราะหากคุณจดรายรับ-รายจ่ายของตัวเองทุกวัน ก็เหมือนคุณได้ทบทวนพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองไปด้วยในตัว คราวนี้ก็จะเห็นแล้วล่ะว่าเผลอฟุ่มเฟือยกับอะไรไปบ้าง

4. ลดระดับแพคเกจมือถือ📱

          สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมแพคเกจโทรศัพท์รูปแบบต่าง ๆ ให้ได้เลือกใช้ กลายเป็นค่าใช้จ่ายที่เลี่ยงไม่ได้ของทุกคนไปแล้ว แต่ในเมื่อแพคเกจโทรศัพท์ก็มีทางเลือกให้เราหลายโปรโมชั่น เราก็ควรพิจารณาให้ดีว่าไลฟ์สไตล์ของเราเหมาะสมกับแบบไหน และหากว่าที่บ้านของคุณก็ติดอินเทอร์เน็ตและปล่อยสัญญาณไวไฟอยู่แล้ว แบบนี้แนะนำให้เลือกใช้แพคเกจโทรศัพท์มือถือเบา ๆ เอาแค่ขีดจำกัด 3G ไม่กี่เมกกะไบท์ก็พอ

5. ผลิตงาน D.I.Y.🧸

          ของทำมือทุกชนิดมักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง เนื่องมาจากไม่ได้ขายแค่งานประดิษฐ์อย่างเดียว แต่ขายไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ไปด้วยกัน ซึ่งหากคุณเองก็มักจะ D.I.Y. ของใช้เองอยู่แล้ว ลองทำเผื่อขายหารายได้พิเศษเข้ากระเป๋าตัวเองก็น่าจะเวิร์กไม่เบา

6. เปิดท้ายขายของเก่า👗

          เสื้อผ้า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ หรือแม้แต่หนังสือที่คุณอ่านจนเบื่อแล้วสามารถนำไปเลหลังขายเป็นของมือสองได้ด้วยนะคะ ยิ่งเดี๋ยวนี้ช่องทางตลาดมีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งแบบขายผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์ก แบกะดินขายตามตลาดนัด และฝากขายตามเว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อ-ขายของมือสอง ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรายได้ให้เราแบบง่าย ๆ แล้ว ยังช่วยเคลียร์ข้าวของที่รกอยู่ในบ้านออกไปด้วย

7. ขายความสามารถพิเศษ🧣

          ใครที่ใช้ของได้คุ้มจนไม่มีของเหลือใช้เอาไว้ขายก็ไม่ต้องน้อยใจไปค่ะ เพราะหากคุณมีความสามารถด้านอื่น เช่น มีทักษะด้านงานศิลปะ ดนตรี คอมพิวเตอร์ หรือมีทักษะด้านงานเขียนและการใช้ภาษา คุณสามารถดึงข้อได้เปรียบเหล่านี้มาสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ตัวเองได้เช่นกัน อย่างวาดรูปการ์ตูนเป็นสติ๊กเกอร์ไลน์ วาดภาพประกอบ เล่นดนตรีเปิดหมวกหรือที่ร้านอาหาร ไม่ก็รับจ้างแปลบทความส่งสำนักพิมพ์ เป็นต้น

8. ลิสต์รายการช้อปปิ้งในแต่ละเดือน📑

          ในกรณีที่คุณต้องการควบคุมตัวเองให้ช้อปปิ้งอย่างประหยัด ลองลิสต์รายการสิ่งของที่อยากได้ก่อนไปช้อปปิ้งคร่าว ๆ ก่อนสิคะ แล้วอ่านทวนซ้ำอีกรอบว่าของที่เราอยากได้นั้นมีความจำเป็นกับเรามากน้อยแค่ไหน จากนั้นจึงค่อย ๆ ตัดรายการของใช้ฟุ่มเฟือยออกไป แต่ทั้งนี้ควรซื่อสัตย์กับตัวเองหน่อยนะ พวกข้ออ้างต่าง ๆ ที่ชอบใช้ตอนอยากช้อปก็ขอให้ลืม ๆ ไปซะให้หมด

9. ซื้อของในตลาด🛍️

          จำได้ไหมเอ่ยว่าคุณเดินตลาดครั้งสุดท้ายเมื่อไร เพราะยุคสมัยนี้ผู้คนก็มักจะจับจ่ายของใช้ในห้างเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่จริงแล้วสินค้าในตลาดบางอย่างถูกกว่าราคาในห้างตั้งเยอะเชียวนะคะ ถ้าอย่างนั้นลองเดินสำรวจราคาของในตลาดกันบ้าง

10. ของมีชื่อก็ไม่ได้ดีเสมอไป🔖

          สินค้าชื่อดังหลายแบรนด์อาจไม่ได้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากไปกว่าสินค้ายี่ห้อไก่กาที่มีขายอยู่ทั่วไปในราคาต่ำกว่าก็ได้ โดยเฉพาะคนที่ติดใช้แบรนด์เมืองนอก รู้ไหมคะว่าราคาสินค้าที่คุณต้องควักจ่ายไป บวกภาษีนำเข้าอีกเท่าไหร่ ฉะนั้นลองเปิดใจเลือกใช้สินค้ายี่ห้อทั่ว ๆ ไปดูสิคะ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะมือดีได้ของมีคุณภาพในราคาน่าคบหาดูบ้างก็ได้

Original by “well-wisher”