💰 ทริคการออมที่เราเลือกเองได้ 💰
เวลาเราพูดการออม มักตามมาด้วยข้ออ้าง มากมาย 🤨
“เงินไม่พอใช้จะออมยังไง , เงินไม่มีจะเอาที่ไหนมาออม”
แต่จริง ๆ แล้ว การออมมันอยู่ในสัญชาตญาณเราทุกคน เพราะเป้าหมายของการออมที่แท้จริง คือ เราต้องการสะสมเงินน้อย ให้ได้เงินก้อน เพื่อเอาไปใช้ตามเป้าหมายต่าง ๆ ของชีวิตเราเท่านั้นเอง
แต่อยู่ที่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกออมแบบไหน ซึ่งสรุปได้ 3 แบบ ดังนี้
🎯 1. ออมก่อน ใช้ทีหลัง
สำหรับแบบแรก ง่ายที่สุดและตรงไปตรงมา คือค่อย ๆ เก็บ เพื่อให้ได้เงินก้อน แล้วค่อยเอาไปใช้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ข้อดี
- ไม่มีภาระผูกพัน
- ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินเข้ามา ก็ยืดระยะเวลาใช้เงินออกไปได้
ข้อเสีย
- ต้องมีวินัยพอสมควร ไม่เอาเงินไปใช้ระหว่างทาง
- มีเงินใช้น้อยลง ในระยะเวลาหนึ่ง เพื่อนำเงินไปออม
วิธีการจัดการ
- กำหนดเป้าหมายการใช้เงิน 3 เดือน , 1 ปี ข้างหน้า , 3-5ปีข้างหน้า เพื่อให้สามารถจัดการได้ง่าย
- ออมอย่างเป็นระบบ เช่น ออมในสัดส่วนเท่ากันทุกเดือน , ตัดบัญชีอัติโนมัติ
🧭 2. ใช้ก่อน ออมทีหลัง
แบบนี้เรามักจะคุ้นกันดี ผ่านเครื่องมือทางการเงิน อย่างการใช้บัตรเครดิต การผ่อนสินค้า
ข้อดี
- ได้ใช้เงินก้อนเลยทันที
- บังคับให้มีวินัยการออมโดยอัตโนมัติ
ข้อเสีย
- หากมีเรื่องใช้เงินฉุกเฉิน ต้องเหนื่อยมากขึ้น เช่น หาเงินเพิ่ม , ลดรายจ่ายปัจจุบัน
- เสียดอกเบี้ยกู้ยืม(บางกรณี)
วิธีการจัดการ
- คำนวณจำนวนเงิน ระยะเวลาการผ่อนคืน เพื่อไม่ให้บีบการเงินในชีวิตเกินไป
- วางแผนเผื่อเหตุฉุกเฉิน ที่อาจจะต้องมีเรื่องใช้เงินเพิ่มเข้ามา
🥏 3.ออมก่อน ใช้ระหว่างทาง แล้วค่อยออมต่อ
แบบที่ 3 นี้ คิดว่าหลายคนน่าจะนึกถึงการซื้อบ้าน ซื้อรถ ที่ต้องใช้เงินดาวน์ ซึ่งอีกหนึ่งรูปแบบที่ใช้กลไกนี้ คือ การควบคุมความเสี่ยงผ่านประกันต่าง ๆ เช่น จ่ายเบี้ยไปก่อน หากวันใด เกิดอุบัติเหตุ , มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น เราจะใช้เงินระหว่างทาง และจ่ายเบี้ยต่อไปจนจบ
ข้อดี
- กรณี บ้าน รถ สามารถยืดระยะเวลาการใช้เงินช่วงแรกออกไปได้
- ป้องกันความเสี่ยงกรณีต้องใช้เงินฉุกเฉิน
- วางแผนการจ่ายได้
ข้อเสีย
- มีโอกาสพบปัญหาเรื่องกรณีฉุกเฉินหลายครั้ง เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการจ่ายระยะยาว
- เสียดอกเบี้ยกู้ยืม
วิธีการจัดการ
-เช็คเป้าหมายการใช้เงินระหว่างทาง เพื่อให้วางแผนจัดการรายจ่ายได้ชัดเจนขึ้น เช่น ผ่อนรถ 5 ปี ถ้าต้องมีจ่ายประกันด้วย รายจ่ายจะเกินความสามารถไหม
-ช่วงแรกให้วางส่วนกรณีฉุกเฉินไว้เผื่อหลังจากใช้เงิน ซึ่งกรณีเป็นหนี้ยาว ควรมีขั้นต่ำ 3-6 เดือน
ซึ่งไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเลือกแบบไหน ไม่มีถูกผิดนะคะ แต่มันมีข้อดีข้อเสียต่างกัน อยู่ที่เพื่อน ๆ จะสามารถจัดการมันได้ดีแค่ไหน และที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อใช้ไปตลอดชีวิต เพียงแค่เรานำแต่ละวิธีมาปรับให้เหมาะกับชีวิตคุณในแต่ละช่วงก็พอค่ะ 😋
Original by “well-wisher”