3 step คาถาพารวย

adminothers

 

คาถาพารวยด้วยแก้ว 3 ประการ ? สำหรับมนุษย์เงินเดือน

พอดีเห็นช่วงนี้มีคนชอบแชร์เรื่องเกี่ยวกับ ดวงชะตาของราศีไหนจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็มีคนแซวไว้อยู่เหมือนกันว่าต้องเป็นราศีที่ทำมาหากิน “well-wisher” เองก็เลยอยากจะมอบคาถาพารวยบ้างค่ะ จะได้ร่ำรวยกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

คาถาพารวยก็ง่าย ๆ เลย เพียงแค่เราท่องว่า

“เพิ่มตัง จ่ายยั้ง ออมจัง” ???

มาดูความหมายของแต่ละคำกันเลยดีกว่า

?เพิ่มตัง = เพิ่มรายได้ ?

วิธีการเพิ่มตังสำหรับมนุษย์เงินเดือนนั้นก็มีหลายวิธีนะคะ อย่างแรกสุดเลยก็คือ การได้ขึ้นเงินเดือนจากที่ทำงาน ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว ก็ตั้งใจทำงาน สร้างสรรค์ผลงานให้กับเจ้านายเห็น รับรองว่าถ้าเจ้านายไม่ขึ้นเงินเดือนให้ แต่ผลงานเราเตะตาเจ้านายในบริษัทอื่น รับรองว่าคุณจะเกิดการถูกแย่งตัวกันเลยทีเดียวค่ะ บางทีก็จะมี Head Hunter โทรมาคุยเลยว่า อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ ไปลองสัมภาษณ์กับที่นั่นที่นี่ไหม?

วิธีการที่ “well-wisher” เคยทำก็คือเราต้องทำให้คนรู้จักเราให้มากขึ้น โดยเฉพาะทางสื่อ Online เช่น Facebook, LinkedIn, Blog ทำ Profile ความเชี่ยวชาญของเราและคอยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เราถนัด พอข้อมูลข้อเราไปเตะตาใครที่เขาต้องการอยู่ เขาจะติดตามเราพร้อมสืบประวัติและอ่านข้อมูลเรา เพื่อนำไปพิจารณาการ Offer งานใหม่ ๆ ค่ะ

หรือถ้าหากใครมีความคิดดี ๆ ในการสร้างธุรกิจของตัวเองหลังเลิกงาน หรือในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยนะคะ บางคนชอบขายของ Online สมัยก่อน “well-wisher” เคยทำพวกงาน สอนพิเศษเด็ก ๆ วันหนึ่ง ๆได้เงินมาเพิ่ม 1,000 – 2,000 บาทเลย ทำไปทำมารายได้ส่วนนี้บวกกับงานประจำอยู่ได้สบายเลยค่ะ (เรียกได้ว่าทำจนลืมนัดกับแฟนกันเลยทีเดียว)
?จ่ายยั้ง = คิดและวางแผนก่อนใช้เงิน ?

ถ้าวิธีการแรกรู้สึกลำบ๊ากลำบากในการหาเงินเพิ่ม ลองมาประหยัดกันแทนดูไหมคะ “well-wisher” เคยอ่านคำพูดของเบนจามิน แฟรงคลิน (คนที่คิดสายล่อฟ้านั่นแหล่ะค่ะ) พูดถึงเรื่องการออมเงินว่า ถ้าเราประหยัด 1 เพนนี ก็จะมีเงินเพิ่ม 1 เพนนี นะเธอว์!!! ซึ่งมันก็เป็นจริงนะคะ การประหยัดตังบางทีมันง่ายกว่าการหาตังซะอีก

ถามว่าประหยัดอย่างไร วิธีง่าย ๆ เลยก็คือลองสำรวจตัวเองว่าวัน ๆ ใช้จ่ายอะไรบ้าง ลองทำบันทึกรายรับรายจ่ายไว้ก็ได้นะคะ แล้วพอเราไล่เรียงออกมาแล้วเราจะเห็นรายจ่ายอยู่ 2 แบบที่มันน่าหมั่นไส้จริง ๆ

รายจ่ายที่ไร้สาระในชีวิตที่ตัดค่าใช้จ่ายได้ : คือเข้าใจนะคะว่าคนเราต้องใช้เงินไปกับความสุข แต่ถ้าเรามีความสุขจนเป็นหนี้ อันนี้จะกลายเป็นความทุกข์ได้ ลองดูนะคะว่ารายจ่ายไร้สาระมันเกิดขึ้นในตัวเราบ้างหรือเปล่า อย่างตัว “well-wisher” เองมีอยู่ช่วงหนึ่งเคยบ้ากินไอติมทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น หมดค่าไอติมไปเยอะมาก แถมอ้วนอีกต่างหาก เลยใช้วิธี กินอันที่มันถูกลง กับ กินให้มันถี่น้อยลงเป็น 3 วันครั้ง

รายจ่ายที่จำเป็นแต่เราหาวิธีประหยัดได้ : เชื่อไหมว่าบางครั้งรายจ่ายที่จำเป็นก็ประหยัดได้นะ เพียงแค่เราหาวิถีประหยัดมันให้เจอ เช่น เคยต้องนั่งรถเมล์ไปสถานี BTS และจ่ายค่า BTS ไปทำงาน แต่อยู่ ๆ ก็ลองเปลี่ยนวิธีที่ประหยัดได้มากกว่าเดิม คือแถว ๆ บ้านจะมีคนไปที่ทำงานด้วยกัน 4-5 คน ก็เลยหารค่ารถไปด้วยกัน นัดกันมาเจอแล้วโบกแท็กซี่ไปด้วยกัน ถึงเร็วกว่าเดิมค่ารถต่อคนถูกกว่าเดิมด้วยค่ะ พวกนี้มันขึ้นอยู่กับการวางแผนนะ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นใครว่ามันจะลดไม่ได้ล่ะ!!
? ออมจัง = ออมเงินเยอะ ๆ และหาทางต่อยอดเงินออม ?

แน่นอนค่ะว่า เงินออมนั้นมาจากความสัมพันธ์ระหว่างรายรับและรายจ่าย หากเรามีรายรับเยอะกว่ารายจ่ายเมื่อไหร่ เงินออมย่อมเกิดขึ้นแน่ ๆ แต่ “well-wisher” เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะเซ็งกับดอกเบี้ยเงินฝาก ใช่ไหมคะ ออมอย่างเดียวสมัยนี้มันอาจจะไม่ได้สร้างความมั่งคั่งมากเท่ากับสมัยก่อน การเปลี่ยนเงินออมไปเป็นเงินที่ป้องกันความเสี่ยงและการลงทุนก็เป็นสิ่งที่สามารถทำเพิ่มได้

การป้องกันความเสี่ยงเป็นเบื้องต้นเลยที่เราน่าจะทำนะ เช่น การซื้อประกันไว้ เพราะถ้าเราเก็บเงินออมไปเรื่อย ๆ แต่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ต้องจ่ายเงินทีเป็นหมื่นเป็นแสน บางทีกลายเป็นความมั่งคั่งหายไป การทำประกันให้ครอบคลุมความเสี่ยงก็เป็นเรื่องที่ดีนะคะ

นอกจากนี้แล้วเราก็ควรจัดพอร์ตการลงทุนเพิ่มเติมตามความเสี่ยงที่เรารับได้ ด้วยการนำเงินออมไปลงทุนใน หุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ ฯลฯ เพื่อให้เงินงอกเงยมากกว่าเดิม แต่การลงทุนมีความเสี่ยงเหมือนกันนะ หุ้นมีขึ้นก็มีลง ลงทุนไปก็อาจจะขาดทุนได้ การศึกษาและบริหารความเสี่ยงก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะหนีไม่ได้ เมื่อเราสร้างเงินออมให้งอกเงยแล้วก็จะรวยขึ้นได้มากเช่นกันค่ะ
เพิ่มรายได้ – ลดรายจ่ายไม่จำเป็น – ต่อยอดผลตอบแทนเงินออม

ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตของเราดูนะคะว่าจะต้องทำอย่างไร และก็ขอให้ทุกคนร่ำรวย ๆ นะคะ ?