🙃 New Normal ความปกติใหม่ 🙃
การใช้ชีวิตเราเปลี่ยนไปมากไหม..? หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 🙄 ?..ก็คงมีบ้างไม่มากก็น้อย แต่ที่เปลี่ยนไปแน่ ๆ ก็อย่างเช่น การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกไปทำธุระนอกบ้าน และการรักษาความสะอาดมากขึ้น
🔭 ไวรัสโควิด-19 ถูกพูดถึงว่าเป็นสาเหตุให้เกิดความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal)
ความหมายของความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal)
ความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) เป็นคำที่ Bill Gross ผู้จัดการกองทุนชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ที่โด่งดังในชวงวิกฤติการเงินสำคัญ ๆ ของโลก ได้กล่าวไว้ในปี 2008 ซึ่งหมายถึงพฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง เช่น การถือกำเนิดขึ้นของอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อการกักตัว 14 วันผ่านพ้นไป คนทั้งโลกมองไปยังประเทศจีนเป็นประเทศแรกว่าจะปรับตัวกับโควิด-19 อย่างไร ในแต่ละประเทศจะเกิดสิ่งใหม่หลังโควิด-19 ที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงเหมือนกันทั่วโลกก็คือ การใส่ใจสุขอนามัยของตัวเองมากขึ้น อย่างการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน หรือการทักทายด้วยวิธีสัมผัสร่างกายจะต้องเป็นสิ่งใหม่ที่ถูกทบทวน ความปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน มีดังนี้
🗂 1.ปรากฏการณ์สิ่งใหม่ในด้านธุรกิจ
ปัจจุบันนี้บริษัท และธุรกิจต่าง ๆ ก็เปิดให้บริการได้แล้ว โรงงานก็เปิดให้ลูกจ้างเข้าไปทำงานได้มากขึ้น การกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านไม่ได้แปลว่าไวรัสหยุดระบาดไปแล้ว แต่เป็นความร่วมมือร่วมใจกันดูแลตัวเองและปฏิบัติตามแผนของผู้นำท้องถิ่น และใครที่มีโอกาสเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ต้องกักตัวเอง 14 วัน รวมถึงคนที่ไม่ป่วยก็ต้องวัดไข้และสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันในทุก ๆ วัน
เหตุการณ์นี้พอเป็นไกด์ไลน์แก่ประเทศอื่น ๆ ที่กำลังเผชิญโรคระบาดนี้ได้ว่าหากโควิด-19 ยังไม่จบ เราจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้หรือเปล่า ดูตัวอย่างจากจีนก็สรุปได้ว่าธุรกิจไปต่อได้ แต่ต้องควบคู่กับการดูแลสุขภาพของแรงงาน และสิ่งที่จะทำให้การกักตัวปิดเมืองไม่ประสบความสำเร็จคือความล้มเหลวของระบบการดูแลสุขภาพของประชากร หากทุกคนไม่ให้ความร่วมมือ โรคระบาดก็อาจอยู่ทำลายเศรษฐกิจไปอีกนาน
ตัวอย่าง สิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในที่ทำงาน
– ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย 😷 ในห้องปิด
– การจัดโต๊ะนั่งของพนักงานจะถูกปรับเปลี่ยนให้ห่างกัน 📏
– งานของแม่บ้านจะเพิ่มขึ้นด้วยหน้าที่ที่ต้องเปิดหน้าต่างห้องทำงานให้อากาศระบายบ่อย ๆ 🍃
– การพ่นยาฆ่าเชื้อ 🌬 ทั้งตึกจะถูกบรรจุอยู่ในเรื่องความปลอดภัยให้สำคัญพอกับการฉีดปลวก
– พนักงานจะได้รับอนุญาตให้ลาทำงาน Work from Home ได้หากมีอาการไอ จาม ตัวร้อน 🏠
สิ่งที่ตามมาก็คือ บริษัทจะต้องลงทุนจัดเก็บข้อมูลผ่าน Cloud มากขึ้น และจัดระบบสวัสดิการให้กับพนักงานใหม่โดยคำนึงถึงวันลาทำงานอยู่บ้าน หรือการเลือกใช้คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพื่อให้มีความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงการจัดรถรับส่งพนักงานเพื่อลดโอกาสการรับเชื้อจากสิ่งแวดล้อม
💻 2.ปรากฏการณ์สิ่งใหม่ในด้านเทคโนโลยี
โควิด-19 กดดันให้ประชากรพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยีมากขึ้น เราติดต่อกันผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น 📡 จนเกิดคำถามว่าหากต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไปนาน ๆ เราจะสามารถใช้ทรัพยากรอินเทอร์เน็ตได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการหรือเปล่า
กรณีการใช้เทคโนโลยีสังคมไร้เงินสด 💸เมื่อเราต้องโอนเงิน ชำระบิล ทำธุรกรรมออนไลน์พร้อม ๆ กันหลายล้านคนต่อวินาที แอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ มีความพร้อมที่จะรองรับ Transaction นี้หรือไม่ และมีความปลอดภัยเพียงพอหรือเปล่า รวมถึงอุปกรณ์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เป็นมือถือระบบ 3G, 4G แต่อนาคตที่กำลังจะเปิดใช้ 5G📱นั้น จะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อใช้เทคโนโลยี 5G นี้ได้ จึงเป็นแนวโน้มสำคัญว่าปี 2020 เป็นต้นไป ประชาชนจะหันมาใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊กทั้งหมดที่เชื่อมต่อสัญญาณไร้สายที่รับ 5G ได้ เพราะมีความเร็วเทียบเท่าการใช้เน็ตบ้านนั่นเอง
ตัวอย่างสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในด้านเทคโนโลยี
– ผู้บริโภคจะหันไปใช้อุปกรณ์ที่รองรับอินเทอร์เน็ตได้ดีที่สุด 🌐
– แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตและค่าโทรต่าง ๆ จะต้องปรับราคาเพื่อแข่งขันกันมากขึ้น
🍱 3.ปรากฏการณ์สิ่งใหม่ในด้านการบริโภค
โควิด-19 ทำให้เกิดคำถามที่ว่าอาหารที่เรารับประทานนั้นสะอาดแค่ไหน ถ้าเราไม่ได้เป็นผู้ประกอบอาหารเองจะมั่นใจในความสะอาดได้หรือเปล่า รวมถึงกระบวนการจัดส่งอาหารสด อาหารแปรรูป ผัก ฯลฯ ทั้งหมดเหล่านี้เป็นคำถามที่ทุกคนบนโลกกำลังให้ความสนใจพร้อม ๆ กัน
ส่วนหนึ่งของความรุนแรงโรคโควิด-19 ที่มาจากโรคแทรกซ้อนมาจากการบริโภคอาหารรสจัด หวาน มัน เค็ม อันเป็นสาเหตุส่งผลให้เกิดโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง ฯลฯ ผู้ที่เป็นโรคเหล่านี้มีโอกาสเกิดความรุนแรงเมื่อติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นเรื่องการกินจะต้องใส่ใจตั้งแต่วันนี้
ตัวอย่าง สิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในพฤติกรรมการบริโภค
– เมื่อเราใช้วิธีการสั่งซื้ออาหารออนไลน์ 🏍กันมากขึ้น หน้าร้านต่าง ๆ มีระบบจัดการรอคิวเพื่อความปลอดภัยให้แก่พนักงานส่งอาหารหรือไม่ จากบางร้านที่เคยตั้งเก้าอี้ให้นั่งรอ อาจจัดระบบให้คอยเพื่อรักษาความสะอาดของอาหารด้วย
– ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้การนั่งรับประทานอาหารที่ร้านหลังโควิด-19 จบ จะไม่เป็นที่นิยมเท่าแต่ก่อน
– ร้านอาหารต่าง ๆ อาจจะต้องจัดโปรโมชั่นเพื่อให้คนรู้จักร้านมากขึ้น
– จำนวนผู้ที่สั่งกลับบ้านมากขึ้นทำให้ทางร้านต้องลดการจ้างพนักงานเสิร์ฟ
– บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นพลาสติกขยะจะต้องได้รับการควบคุมมากขึ้นด้วย 📦
🏫 4.ปรากฏการณ์สิ่งใหม่ในสถาบันการศึกษา
เด็กเล็กตกเป็นกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เพราะภูมิต้านทานยังน้อย และมักมีอาการรุนแรงหากได้รับโรคต่าง ๆ โรคระบาดในเด็กเล็กวัยอนุบาล และประถมศึกษามักติดต่อกันอย่างรวดเร็ว เพราะต้องใช้เวลาเรียนในห้องนาน ๆ และนั่งติดกับเพื่อน ๆ เป็นไปได้ว่าช่วงโควิดนี้จะทำให้เด็ก ๆ ต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน หรือต้องลดเวลาเรียนลง
ตัวอย่างสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในระบบการศึกษา
– วัคซีนเสริมบางตัวอาจถูกบรรจุเป็นวัคซีนหลักเพื่อให้เด็กไทยได้รับโอกาสฉีดวัคซีนมากขึ้น 💉
– ปลูกฝังให้เด็กเล็กสวมหน้ากากอนามัย 😷ตั้งแต่ชั้นอนุบาล
– สวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าเรียน-สอบ
– เพิ่มจำนวนก๊อกน้ำให้เด็ก ๆ ได้ล้างมือได้มากขึ้น 💧
– ช่วงเวลาปล่อยพักของเด็กแต่ละชั้นไม่ควรพักพร้อมกัน ลดความแออัดของโรงอาหาร 👫👬
– เปลี่ยนระบบการเรียนการสอนออนไลน์ รองรับสถานการณ์ Learn from home 💻
🛐 5.ปรากฏการณ์สิ่งใหม่ในด้านศาสนา
ในประเทศอิตาลี พบจำนวนบาทหลวงเสียชีวิตจากโควิด-19 อย่างน่าใจหาย เพราะเกิดจากพฤติกรรมระหว่างปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ป่วยที่ขาดกำลังใจ เมื่อมีการสัมผัสมือ 👐 (หรือแม้กระทั่งเช็ดน้ำตาให้กัน) ก็ทำให้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างง่ายดาย
แม้กระทั่งประเทศไทยเองก็พบพระสงฆ์ สามเณรที่ต้องกักตัวเองเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 อยู่มาก เนื่องจากบุคคลลกลุ่มนี้มักต้องพบเจอกับคนหมู่มากอยู่เสมอ เริ่มจากช่วงเช้าที่ต้องเดินบิณฑบาต ระหว่างวันชาวบ้านมาถวายเพล นิมนต์เชิญไปงานพิธีสำคัญ ๆ ตอนเย็นมีสวดอภิธรรม ซึ่งตอนนี้โควิด-19 ทำให้นักบวชทั่วโลกต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
นอกจาก Social Distancing 👬👫ที่ทำให้เราต้องเว้นระยะห่างในการพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กัน หลังจบสถานการณ์โควิด-19 ระบาดไปแล้ว คาดว่าผู้คนส่วนหนึ่งจะปรับตัวเพื่อป้องกันการติดต่อโรคทางเดินหายใจกันมากขึ้น โดยเปลี่ยนจากพฤติกรรมเดิม ๆ ทีละเล็กละน้อย หรือเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันตัวเอง และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคมากขึ้น ซึ่งโควิด-19 ทำให้เราทุกคนต้องปรับตัวกันในระยะยาว
ในด้านเศรษฐศาสตร์ “New Normal” ถูกแปลว่า “ความปกติใหม่” ซึ่งวัดเป็นตัวเลขที่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจภาพรวม
ที่มา :
1. เว็บไซต์หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
2. www.vaticannews.va