🎁 “The Gift ชีวิตคือของขวัญ” 🎁

Tavatchai Engothers

🎁 “The Gift ชีวิตคือของขวัญ” 🎁

บทเรียนจากหนังสือ The Gift ที่จะเปลี่ยนชีวิตเป็นของขวัญสุดพิเศษสำหรับคุณตลอดกาล💕

♥️ 1.ตรวจสอบความรู้สึกของตัวเองทุกวัน
คนเราใช้เวลาทั้งวันเพื่อสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว แต่ใช้เวลานานแค่ไหนในการสังเกตตัวเอง? ฝึกตรวจสอบความรู้สึกของตัวเองในทุกวัน ยอมรับทุกความรู้สึกและอนุญาตให้มันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ทางด้านบวกหรือด้านลบ “ความรู้สึกก็คือความรู้สึก ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด” อารมณ์ที่เราไม่ยอมรับและปลดปล่อยออกมาจะยังคงถูกกักเก็บอยู่ภายใน จงรู้สึกเสียก่อน เพื่อที่จะเยียวยาตัวเองได้

🧡 2.ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการก้าวต่อไปเพื่อค้นพบอิสรภาพ
“ทุกวิกฤติย่อมมีการเปลี่ยนผ่าน” สิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาขัดจังหวะชีวิตของเรา ที่ทำให้เราหยุดชะงักบนเส้นทาง ที่สร้างความเจ็บปวดสาหัสราวกับตกนรก สามารถกลายเป็นตัวกระตุ้นตัวตนใหม่และหนทางใหม่ หนทางที่มอบมุมมองและช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการในชีวิต เมื่อเราเลือกที่จะตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยการก้าวต่อไปและค้นพบอิสรภาพของเรา เท่ากับเราได้ปลดปล่อยตัวเองจากคุกแห่งความทุกข์

ทริคเล็ก ๆ จากหนังสือ📖: ทำกระดานภาพ ตัดและแปะรูปภาพหรือคำที่ดึงดูดความสนใจของเรา วางกระดานนั้นไว้ในจุดที่จะสามารถมองมันทุกวัน เพื่อเป็นเหมือนลูกศรนำทางให้เราเดินตามไป

💚 3.ใช้เวลาอย่างน้อยห้านาทีทุกวันเพื่อดื่มด่ำความรู้สึกรื่นรมย์
ในสภาวะที่ไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราระแวงที่จะมีความสุข บอกตัวเองว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะมีวิธีที่จะนำความสุขและความงดงามมาสู่ชีวิตของเราเสมอ” ใช้เวลาอย่างน้อย 5 นาทีดื่มดํ่ากับความรู้สึกรื่นรมย์ เช่น สัมผัสของแสงแดดอบอุ่นหรืออ้อมกอดจากคนที่รัก ใช้เวลาสังเกตและสัมผัสกับความรื่นรมย์นั้น

💙 4.ความซื่อตรงเริ่มจากการเรียนรู้ที่จะบอกความจริงกับตัวเอง
การบอกความจริงกับตัวเอง ทั้งในด้านความรู้สึก ความคิดและประสบการณ์ จะทำให้เราเห็นทางที่จะหยุดการต่อสู้และการวิ่งหนีจากอดีต เรียกตัวตนที่แท้จริงกลับคืนมา พยายามสำรวจร่างกายและวัดอุณหภูมิทางอารมณ์อย่างมีสติ ถามตัวเองว่า “ฉันรู้สึกนุ่มนวลและอบอุ่น หรือเย็นชาและแข็งกระด้าง”

💜 5.การรักตัวเองเป็นรากฐานของความรู้สึกไม่ขาดพร่อง สุขภาพและความสุข
เคยรู้สึกไหมว่าการรับคำชมจากคนอื่นเป็นเรื่องยากเสมอ เพราะเราถูกสอนให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและไม่หลงตัวเอง ส่งผลให้น้อยครั้งที่เราจะกล้าโอบกอดคำชมนั้นหรือแม้กระทั่งการหยิบยื่นคำชมให้ตัวเอง จนบางครั้งก็สงสัยว่าคุณค่าของเราอยู่ที่ตรงไหน

เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ลองบอกกับตัวเองว่า ‘ใช่ นี่คือฉัน ใช่ ฉันเก่งมาก!’ เป็นจุดเริ่มต้นของการรักตัวเองที่ไม่ใช่การหลงตัวเอง สิ่งที่ค้นพบจะไม่ใช่ตัวเราคนใหม่ แต่เป็นตัวตนที่อยู่ตรงนั้นมาตลอด เราที่งดงาม ถูกสร้างขึ้นด้วยความรักและเต็มไปด้วยคุณค่าไม่ต่างจากใครเลย

🤎 6.เลิกจดจ่อกับสิ่งที่สูญเสียไป แต่จดจ่อกับสิ่งที่หลงเหลืออยู่
“ความโศกเศร้าเป็นเรื่องยากแต่มันก็ทำให้เรารู้สึกดีได้เช่นกัน” การปล่อยวางสิ่งที่เคยเกิดขึ้นหรือสิ่งที่เราสูญเสียไปอดีต ไม่ได้หมายความว่าจะลืมมันไป เราสามารถกลับไปนึกถึงอดีต โอบกอดมันไว้ แต่เราจะไม่ได้ติดอยู่ตรงนั้น ไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

แต่เราจะสามารถมาถึงจุดที่เข้าใจในสิ่งที่เคยเกิดขึ้นและสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้น เลิกจดจ่อกับสิ่งที่ได้สูญเสียไป แล้วหันกลับมาจดจ่อกับสิ่งที่หลงเหลืออยู่ นี่คือการเลือกที่จะใช้ชีวิตทุกช่วงเวลาให้เป็นดั่งของขวัญและโอบรับสิ่งที่เป็นอยู่

🤍 7.ปฏิบัติต่อผู้อื่นในแบบที่เขาสามารถจะเป็นได้
ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ100% ทุกคนมีทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี เมื่อเรากำลังมีความขัดแย้งกับใครสักคน ลองจินตนาการตัวตนที่ดีที่สุดของคนคนนี้ ลองหลับตาและนึกภาพตัวเขารายล้อมด้วยแสงสว่าง ทาบมือเหนือหัวใจและพูดว่า “ฉันมองเห็นด้านนั้นของเธอ” จะทำให้ความรู้สึกของเรานั้นเบาบางลงและปฏิบัติต่อผู้อื่นในแบบที่เขาสามารถจะเป็นได้

Credit : “The Gift ชีวิตคือของขวัญ”
Edith Eger เขียน
นิภา เผ่าศรีเจริญ แปล
สำนักพิมพ์ Amarin HOW-TO