🏡 Work from home กับสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงตลอดกาล ของมนุษย์เงินเดือน 🏡

Tavatchai Engothers

🏡 Work from home กับสิ่งที่อาจเปลี่ยนแปลงตลอดกาล ของมนุษย์เงินเดือน 🏡

แม้ว่าในหลายพื้นที่ในโลกสถานการณ์ของโรคโควิด-19 จะทุเลาลงบ้างแล้วก็ตาม แต่บริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งในต่างประเทศ ยังคงประกาศว่าจะให้พนักงานทำงานที่บ้านต่อไปอย่างถาวร เช่น Facebook และ Twitter ส่วนชาวอเมริกันอีกกว่า 16% ก็คิดเช่นกันว่าจะวางแผนทำงานที่บ้านอย่างถาวร เมื่อพฤติกรรมเปลี่ยนไปความเปลี่ยนแปลงที่อาจเห็นได้อย่างชัดเจนในอนาคต อาจเกิดขึ้นดังนี้

💷 1. เงินค่าจ้าง-ค่าตอบแทนจะเปลี่ยนไป

เมื่อการทำงานเปลี่ยนรูปแบบ ชีวิตการทำงานไม่ได้ผูกติดอยู่กับสถานที่ทำงานเท่านั้น แต่สามารถทำงาน จากที่ไหนก็ได้ แนวคิดการให้ค่าตอบแทน รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนไปด้วย ในทางกลับกัน อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ เมื่อพนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือที่อื่น ๆ แสดงว่าพนักงานจำเป็นต้องนำทรัพย์สิน อุปกรณ์ หรือแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของตัวเองมาใช้เพื่อการทำงาน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ และค่าอินเตอร์เน็ต ก็จะกลายเป็นส่วนสำคัญ ที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย Global Workplace Analytics เคยทำการศึกษาว่า การทำงานจากที่บ้าน ของพนักงาน 1 คน ในช่วงเวลาเพียงครึ่งปี ทำให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 11,000 ดอลลาร์ สหรัฐ หรือประมาณ 346,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ บริษัทสามารถ เพิ่มในส่วนของสวัสดิการ สำหรับพนักงานที่ทำงานที่บ้านได้

🏢 2. ดึงดูดให้พนักงานอยู่กับบริษัทยากขึ้น

ในอนาคตหากกระแสการทำงานที่บ้าน กลายเป็นกระแสหลักของการทำงาน เมื่อไม่มีข้อจำกัด เรื่องสถานที่ทำงาน จะเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานแต่ะคนสามารถหางานได้ตรงความต้องการมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าบ้านกับสถานที่ทำงานจะอยู่ไกลกันหรือไม่ จะต้องเสียเวลาเดินทางนานแค่ไหน ดังนั้นหากเจอบริษัทไหน มีตำแหน่งงานที่น่าสนใจ ก็พร้อมที่จะทำได้ทันที หรือเรียกง่าย ๆ คือ โอกาสในการหางานที่ตรงกับความต้องการมีมากขึ้น ซึ่งมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ข้อดีคือ บริษัทสามารถ หาพนักงานเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมได้มากขึ้น ส่วนข้อเสีย คือ บริษัทอาจไม่สามารถ รักษาพนักงานเก่ง ๆ ไว้ได้ เพราะโอกาสของพนักงานมีมากขึ้น หากพนักงานแต่ละคนขาดปฎิสัมพันธ์ระหว่างกัน ความภักดีต่อองค์กรก็จะน้อยลงไปด้วย

⛩️ 3. สร้างวัฒนธรรมองค์กรยากขึ้น

ผลการสำรวจในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า พนักงานกว่า 56% มองว่าวัฒนธรรมองค์กรที่ดี มีความสำคัญกว่าเงินเดือน ที่ผ่านมาการสร้างวัฒนธรรมองค์กรของแต่ละบริษัท จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน จากการประชุมปฐมนิเทศ เพื่อแนะนำบริษัท แต่ในยุคที่ทุกคนทำงานจากที่บ้าน คงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้พนักงานใหม่เข้าใจวัฒนธรรมองค์กร ที่ต้องอาศัยการเจอหน้ากัน ทำทัวร์พาเดินชมสถานที่ทำงาน

⚖️ 4. คิดวิธีวัดผลลัพธ์จากพนักงานใหม่ ๆ

ตามธรรมชาติของการทำงาน คนเป็นนายต้องการหาวิธีที่จะวัดผลการทำงานของพนักงานแต่ละคนเสมอ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เมื่อทำงานจากที่บ้านจะวัดผลการทำงานอย่างไร ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ มีสาเหตุหลัก ๆ มาจาก “ความเชื่อใจ” เป็นหลักเพราะหัวหน้าอาจไม่เชื่อใจว่าขณะอยู่ที่บ้าน พนักงานแต่ละคนจะทำงานจริง ๆ และในขณะเดียวกันหัวหน้าก็ไม่สามารถควบคุมพนักงานแต่ละคนได้โดยตรง เหมือนกับการทำงานในที่ทำงาน ในอนาคตแต่ละบริษัทอาจคิดค้นวิธีที่จะสอดส่องดูแลการทำงานของพนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วย เช่น ใช้โปรแกรมตรวจจับการขยับของเมาส์ การพิมพ์ การจับภาพหน้าจอ การตรวจดูประวัติว่าพนักงานเข้าเว็บไซต์อะไรบ้าง เป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการทำงานหรือไม่ ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไปและอาจเกิดผลพวงอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน

ขณะที่ในเมืองไทยก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่โควิด-19 กลับมาระบาดหนักและมีมาตรการขอความร่วมมือ WFH 100% ในระยะนี้เพื่อควบคุมการระบาดของโรค ท่ามกลางความยากลำบากนี้ ขอให้ทุกคนผ่านมันไปได้ ด้วยการป้องกันตัวเองและครอบครัว “well-wisher” เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

Credit : Entrepreneur