⚖️ Work – Life Integration : ชีวิตผสมผสานงานกับชีวิต ⚖️
📁 👔 การทำงานในยุคสมัยนี้ มีความคล่องตัวมากขึ้น ด้วยเครื่องมือ หรือเทคโนโลยีที่ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลการทำงานได้จากทุกที่ และจากการล็อคดาวน์ Work From Home กันมานาน ทำให้หลาย ๆ บริษัทมองเห็นว่าพนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ทำให้เกิดวิถีการทำงานแบบใหม่ที่เรียกว่า Work-Life Integration จากที่เมื่อก่อนเราจะได้ยินว่า Work-Life Balance ที่แบ่งแยกงานกับชีวิตออกจากกัน แต่สำหรับ Work-Life Integration คือการทำให้งานและชีวิตเป็นเรื่องที่ไปด้วยกันได้โดยไม่ต้องแยกออกจากกัน โดยนักจิตวิทยา Maria Sirois กล่าวว่าการทำงานและใช้ชีวิตแบบ Work-Life Integration นั้นช่วยลดความเครียดในการทำงานลงด้วย ซึ่งหลาย ๆ องค์กรก็เริ่มนำวิถีการทำงานแบบนี้มาปรับใช้กันมากขึ้นแล้วเช่นกัน
ลองมาดูกันว่าวิถีการทำงานแบบ Work-Life Integration เป็นอย่างไร
🔸 เน้นที่ผลงานมากกว่าชั่วโมงการทำงาน ไม่จำเป็นต้องทำงานถึง 8 ชั่วโมง ถ้าเราไม่ได้ Productive เพียงพอ ผลงานที่ออกมาก็ไม่มีประสิทธิภาพอยู่ดี ถ้าเราจะสมองแล่นคิดงานตอนกลางคืนแล้วทำงานออกมาได้ดีกว่า ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
🔸 ทำงานจากที่ไหนก็ได้ จะ WFH หรือจะทำงานจากคาเฟ่ก็ได้ ที่ไหนก็ตามที่ทำให้เรามีสมาธิในการทำงาน เชื่อมั้ยว่ามีหลายคนที่เข้าออฟฟิศแล้วงานไม่เดินเนื่องจากถูกรบกวนจากการยิงคิวประชุม หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน และเจ้านาย ที่คอยเรียก คอยเข้ามาคุยกับเราตลอดเวลา
🔸 มีเวลาทำงานยืดหยุ่น ไม่ต้องคอยตอกบัตรเข้าออฟฟิศ หรือถ้าจะเข้าออฟฟิศก็ควรมีความยืดหยุ่นในเวลาเข้า-ออก เช่น การหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน ทำให้เราไม่ต้องเสียสุขภาพจิตก่อนไปทำงานนั่นเอง
🔸 ทำให้งานดำเนินคู่ไปกับชีวิต จัดสรรเวลาได้ตามที่อยาก แน่นอนว่าวิถีการทำงานแบบนี้จะทำให้ เราสามารถจัดสรรเวลาตามสะดวกได้ จะรดน้ำต้นไม้อยู่ แล้วมาปั่นงานสัก 3 ชั่วโมง แล้วไปดริปกาแฟต่อก็สามารถทำได้ ทำให้ชีวิตกับงานลื่นไหลไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
Original by “well-wisher”